เป็นการผ่าตัดเพื่อนำไส้ติ่งที่มีการอักเสบออกไป ซึ่งเกิดจากการอุดตันของสิ่งตกค้างบริเวณไส้ติ่ง หรือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จนทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรงบริเวณรอบสะดือลงมาถึงท้องด้านล่างขวา อาจมีอาการอื่นๆ เช่น มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
หากเกิดไส้ติ่งแตก จะทำให้มีการติดเชื้อในสู่กระแสเลือดตามมา และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ การผ่าตัดในกรณีที่ไส้ติ่งแตกแล้ว มีโอกาสเกิดแผลติดเชื้อสูง
1.กระตุ้นการลุกจากเตียงหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
2.งดอาหารและน้ำหลังผ่าตัดวันแรก จนกว่าจะมีการเคลื่อนไหวของลำไส้ จากนั้นแพทย์จะให้เริ่มจิบน้ำ ถ้าไม่มีอาการท้องอืด จะเริ่มให้อาหารเหลว อาหารอ่อนและอาหารธรรมดาตามลำดับ
3.พยายามหายใจเข้า-ออก ลึกๆและไอถูกวิธี
4.ห้ามเกาแผลหรือกระทบกระเทือนแผล เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง ได้
5.เวลาไอ ใช้มือประคองแผล ป้องกันแผลแยกและลดความเจ็บปวดแผลได้
6.การรักษาความสะอาดของร่างกายโดยการเช็ดตัว ห้ามให้แผลเปียก หากแผลเปียกน้ำควรเปลี่ยนผ้าปิดแผลทันที
7.การรับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์
8.การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
9.ป้องกันไม่ให้มีอาการท้องผูก
10.พักผ่อนให้เพียงพอ
11.มาตรวจตามแพทย์นัด
โดยปกติหลังผ่าตัด อาการปวดแผลจะทุเลาลงภายใน 2-3 วัน แต่หากมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งเราจะสามารถเช่น