Q : ไขมันพอกตับ คืออะไร
A : ภาวะที่เกิดการคั่งของไขมันในเนื้อตับ อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง และพังผืดในตับ เพิ่มความเสี่ยงโรคตับแข็ง โดยเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น จากแอลกอฮอล์ กลุ่มโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสุง กลุ่มโรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
Q : Fibroscan คืออะไร
A : เครื่องมือที่นำเทคโนโลยีการส่งคลื่นและวัดคลื่นความถี่บนเนื้อตับ เพื่อวัดปริมาณพังผืดในตับและไขมันพอกตับ โดยไม่ต้องเจาะเนื้อตับตรวจ
Q : ใครควรทำ Fibroscan
A : ผู้ที่มีโรคตับอักเสบ, ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, ผู้ที่มีโรคเบาหวาน ไขมัน อ้วนลงพุง, ผู้ที่มีผลตรวจอุลตร้าซาวน์ หรือแสกนตับสงสัยไขมันพอกตับ, บุคคลทั่วไปที่ต้องการตรวจเพื่อการดูแลสุขภาพ
Q : Fibroscan ไว้ตรวจดูอะไรบ้าง
A : ตรวจวัดระดับพังผืดในตับ และไขมันพอกตับ โดยแสดงผลเป็นตัวเลข
Q : ข้อห้าม ที่ตรวจไม่ได้
A : มีน้ำในช่องท้อง, มีเนื้องอกที่ตับ, ตั้งครรภ์
Q : Fibroscan ต่างจาก Ultrasound อย่างไร
A : Fibroscan คือ เครื่องที่นำมาวัดระดับไขมันและพังผืดตับ โดยแสดงผลเป็นตัวเลข, Ultrasound คือ เครื่องมือตรวจภาพอวัยวะในช่องท้อง เช่น ตับ ถุงน้ำดี นิ่ว น้ำในช่องท้อง โดยแสดงผลเป็นภาพ และแปลผลโดยรังสีแพทย์
Q : ใช้เวลาตรวจนานเท่าไร
A : ประมาณ 15-20 นาที
Q : ทราบผลเมื่อไร
A : ทราบผลทันทีเมื่อตรวจเสร็จ
Q : หากพบติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่และตัดออกได้จึงลดการเกิดมะเร็งได้ใช่หรือไม่?
A : มีข้อมูลการศึกษาพบว่า การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ร่วมกับการตัดติ่งเนื้อนั้น ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และลดอัตราตายจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยสรุปคือ ถ้าตรวจพบรอยโรคได้ตั้งแต่ก่อนเกิดมะเร็งหรือพบมะเร็งระยะแรก จะทำให้สามารถป้องกันหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที
Q : มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างไรบ้าง?
A : มีวิธีการหลายอย่าง แต่มีข้อดีข้อด้อยต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น
1. การตรวจหาเลือดออกแฝงในอุจจาระข้อดีคือทำได้ง่าย ปลอดภัย ข้อด้อย คือความไวในการตรวจยังด้อยกว่าการตรวจชนิดอื่น การตรวจด้วยวิธีนี้หากพบว่าผลเป็นบวกควรส่องกล้องลำไส้ใหญ่ต่อไป
2. การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ข้อดีคือสมารถตรวจหาติ่งเนื้อได้ตลอดทั้งลำไส้ใหญ่สามรถตัดติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่ออกได้และหากพบรอยโรคผิดปกติก็สามารถตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิได้ต่อไป ข้อด้อยคือ มีความเสี่ยงของการให้ยาระงับความรู้สึกขณะทำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในระบบหัวใจและหลอดเลือดหรอได้ความเสี่ยงจากกส่องกล้อง เช่น เลือดออก ลำไส้ทะลุ
3. การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ลำไส้ใหญ่ข้อดีคือตรวจลำไส้ใหญ่ได้ตลอดลำไส้ เห็นพยาธิสภาพนอกลำไส้ไม่ต้องให้ยาระงับความรู้สึก ข้อด้อยคือ หากติ่งเนื้อขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตรอาจมีความไวต่ำลงและหากพบติ่งเนื้อจากการตรวจด้วยวิธีนี้ควรได้รับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพื่อตัดติ่งเนื้อออก จะเห็นได้จำมีหลายวิธี จึงแนะนำให้มาปรึกษาแพทย์
Q : จะเห็นว่าบุคคลที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมหรือเจ็บป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ก็ยังมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากมีปัจจัยทางภาวะแวดล้อมที่เข้ามา ดังนั้น บุคคลทั่วๆไปจึงควรได้รับการตรวจเพื่อหามะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือไม่อย่างไร?
A : การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ เชื่อว่ามีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน จากเนื้อเยื่อปกติเกิดเป็นติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่และพัฒนาไปเป็นมะเร็ง โดยในระยะที่เป็นติ่งเนื้อและมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะต้นๆมักไม่มีอาการแสดงให้เห็น ร่วมกับข้อมูลทางระบาดวิทยาที่พบอุบัติการณ์การเกิดโรคสูงขึ้นตามอายุ โดยกว่าร้อยละ 90 ของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่พบที่อายุ 50 ปี ขึ้นไป จึงมีแนวปฏิบัติในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป
Q : มีปัจจัยเสียงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือไม่อย่างไร?
A : มีทั้งปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมการเจ็บป่วยด้วยโรคบางอย่างและปัจจัยเสี่ยงด้านภาวะแวดล้อม ได้แก่ การมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ การเจ็บป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ภาวะอ้วน การบริโภคเนื้อแดงเนื้อสัตว์แปรรูปกาสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า เป็นต้น
Q : โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้มากน้อยเพียงใด?
A : โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดของระบบทางเดินอาหร โดยมีอัตราการเกิดโรคใหม่และอัตราดายในลำดับต้นๆ ข้อมูลของประเทศไทยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติในปี พ.ศ. 2555 พบว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ พบเป็นอันดับที่ 2 รองจากมะเร็งปอดในเพศชายและพบเป็นอันดับที่ 3 รองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น