เป็นการตรวจที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งในกระบวนการคัดกรองโรคปอดจากการทำงานตั้งแต่ในระยะเนิ่นๆ ก่อนที่จะมีอาการ เนื่องจากปอดเป็นอวัยวะที่มีความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลของสภาพอากาศได้ค่อนข้างดี อาการเหนื่อยง่าย ไอเรื้อรัง หรือหอบเหนื่อย จึงมักปรากฏหลังจากพยาธิสภาพในปอดเกิดขึ้นมากแล้ว การตรวจสมรรถภาพปอดจึงถือว่าเป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นที่ได้มาตรฐานในงานอาชีวอนามัย
- อาชีพที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสไอระเหย ฝุ่น ควัน เช่น ทำงานภายในโรงงานที่มีฝุ่น-ควัน-เมืองแร่-ปูน เป็นต้น
- พนักงานที่สัมผัสสารเคมีชนิดต่างๆในระหว่างการทำงาน
- พนักงานที่ทำงานต่างๆที่ต้องอาศัยระบบการทำงานของระบบหายใจที่มีประสิทธิภาพ กลุ่มที่ต้องเข้าทำงานในพื้นที่อับอากาศ การทำงานบนที่สูง
- พนักงานที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัว
(1) ไอเป็นเลือด
(2) มีภาวะลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดที่ยังไม่ได้รับการรักษา
(3) ระบบหลอดเลือดและหัวใจไม่คงที่ เช่น ความดันโลหิตสูงที่ยังไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมไม่ได้ , มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial infarction) ในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือนที่ผ่านมา, มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดปอด Pulmonary embolism
(4) เส้นเลือดแดงโป่ง (Aneurysm) ในทรวงอก ท้องหรือสมอง
(5) เพิ่งได้รับการผ่าตัดตา เช่น ผ่าตัดลอกต้อกระจก
(6) เพิ่งได้รับการผ่าตัดช่องอกหรือช่องท้อง
(7) ทราบว่าติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเช่นวัณโรคปอดระยะติดต่อ
(8) สตรีมีครรภ์ ยกเว้นในบางรายที่จําเป็นต้องทําการตรวจ
(9) ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยที่อาจมีผลต่อการทดสอบสไปโรเมตรีย์ เช่น คลื่นไส้ หรืออาเจียนมาก
ซึ่งผู้ที่มีภาวะที่เป็นข้อห้ามในการตรวจเหล่านี้ ควรงดหรือเลื่อนการตรวจออกไปก่อนจนกว่าจะหายจากโรคหรือภาวะอันเป็นข้อห้ามนั้นๆ
- การเป็นลม หรือ Syncope ซึ่งอาจเกิดจากการเพิ่มความดันในช่องทรวงอก ในขณะออกแรงเป่าลมออกจากปอดเต็มที่ ทำให้ลดการไหลเวียนของเลือดกลับสู่หัวใจ และทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอชั่วขณะ
- อาการเวียนศีรษะ อาการปวดศีรษะ
- ภาวะหลอดลมตีบ และไอต่อเนื่องหลังการตรวจ อาจเกิดขึ้นได้ขณะทำสไปโรเมตรีย์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวหอบหืด หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
การตรวจสมรรถภาพปอดทำได้ง่าย ไม่เจ็บตัว ใช้เวลาไม่มาก ไม่ต้องเตรียมตัวมาก เพียงแต่ใส่เสื้อผ้าที่หลวมไม่คับ เพื่อให้ออกแรงหายใจได้เต็มที่ และไม่ควรทานอาหารหนักก่อนมาทำ ผู้ที่ใช้ยาขยายหลอดลมควรหยุดยารวมทั้งหยุดสูบบุหรี่ก่อน 24 ชั่วโมง ถ้าตรวจแบบทั่วๆ ไปจะใช้เวลาประมาณ 15 - 30 นาที
1.เครื่องมือในการตรวจ ต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพเป็นระยะตามที่กำหนดไว้ และมีเอกสารรับรองการสอบเทียบเครื่องมือมาแสดงในวันที่ตรวจ
2.คุณวุฒิของผู้ที่ทำการตรวจ ควรมีการตรวจสอบคุณวุฒิของผู้ที่อยู่ประจำเครื่องที่หน้างานทุกครั้ง เนื่องจากการตรวจสมรรถภาพปอดที่จะให้ผลอย่างถูกต้อง ต้องอาศัยเทคนิคการตรวจจากบุคคลากรที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี
3.เทคนิคในการตรวจ ต้องมีการให้คำแนะนำพนักงานก่อนการตรวจอย่างครบถ้วนและถูกต้องทุกเคส เพื่อให้เป่าให้ดีที่สุดในทุกเคส และต้องให้เป่าอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อให้สามารถเลือกผลที่ดีที่สุดมาแปลผล