Q : จากข่าวมีการไปฝังแร่ที่ประเทศจีน แตกต่างกับการฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมากที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์อย่างไร
A : การฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก ฝังแร่โดย นพ.วิรุณ โทณะวณิก ดำรงตำแหน่งเป็นรังสีแพทย์อาวุโสด้านการฝังแร่รักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ศูนย์รังสีของคริสเตียน่า มลรัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และแพทย์อาวุโสด้านการฝังแร่รักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ศูนย์มะเร็งต่อมลูกหมาก โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี ได้ทำการรักษาด้านโรคมะเร็งต่อมลูกหมากโดยการฝังแร่ร่วมกับการฉายแสง ที่ผ่านมามีคนไข้จากการฝังแร่โรคมะเร็งต่อมลูกหมากกว่า 4,000 ราย สามารถมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษาจากการฝังแร่
Q : หลังฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก ต้องใช้ชีวิตอย่างไร
A : สามารถใช้ชีวิต ได้ปกติ
Q : การฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก มีอันตรายต่อคนรอบข้างไหม?
A : มีบ้างแต่น้อยมาก เนื่องจากแร่ที่ใช้ในการฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก ได้แก่ "ไอโอดายน์-125" สามารถส่งรังสีได้เป็นเวลา 1 ปี, "พาเลเดียม 103" สามารถส่งรังสีได้นาน 4 เดือนและ "ซีเซียม 131" จะส่งรังสีได้ราวๆ 2-3 เดือน ซึ่งสารเหล่านี้จะถูกบรรจุลงในเม็ดโลหะไทเทเนียมที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆต่อร่างกายและคนรอบข้าง
Q : ข้อดีของการฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเป็นอย่างไร
A : การฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก เส้นประสาทที่ควบคุมอวัยวะสืบพันธุ์แข็งตัวจะไม่ถูกตัด ฉะนั้นผลข้างเคียงในระยะยาวที่จะทำให้เสียสมรรถภาพเพศจึงมีน้อยเหมือนเทียบกับการผ่าตัด
Q : การฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมากมีกี่แบบ
A : มี 2 แบบคือ แบบถาวรและแบบชั่วคราว
แบบถาวรคือ การเอาเมล็ดแร่ฝังไปที่ต่อมลูกหมาก เมล็ดแร่จะอยู่ในต่อมลูกหมากตลอดไปแต่รังสีแร่จะค่อยๆหมดไปขึ้นอยู่กับชนิดแร่ เมล็ดแร่ที่ฝังอยู่ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย
แบบชั่วคราว คือ การสายยางสอดเข้าไปบริเวณฝีเย็บไปยังต่อมลูกหมาก โดยจะใช้แร่อิริเดียม 192 ซึ่งมีพลังสูง ทิ้งประมาณไม่กี่นาที แล้วดึงออก